ภาคบริการของจีนเติบโตขึ้นในเดือนธันวาคม

China Federation of Logistics and Purchasing (CFLP) รายงานว่าภาคบริการของจีนเติบโตขึ้นในเดือนธันวาคม โดยดัชนีของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่ไม่ใช่ภาคการผลิต ซึ่งเป็นตัวที่บ่งชี้ถึงกิจกรรมนอกภาคการผลิต อยู่ที่ 56.5 ในเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้นจาก 53.2 ในเดือนพฤศจิกายน แต่ในด้านคำสั่งซื้อภาคอสังหาริมทรัพย์ในเดือนธันวาคมลดลงอยู่ที่ 45 ซึ่งแสดงถึงการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์จากระดับราคาที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้านี้ ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบมีราคาลดลงอยู่ที่ 65.9 จาก 66.6 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการลดลงของภาวะเงินเฟ้อ ส่วน PMI ของภาคการผลิตในเดือนธันวาคม อยู่ที่ 53.9 ลดลงจาก 55.2 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ซึ่งแสดงถึงกิจกรรมของภาคการผลิตที่อ่อนตัวลงในเดือนธันวาคม เนื่องจากการใช้นโยบายทางการเงินแบบหดตัวของรัฐบาลเพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ การรณรงค์ลดการปล่อยมลพิษ และเน้นการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ 
            การเพิ่มขึ้นของ PMI นอกภาคการผลิตมีสาเหตุมาจากการลงทุนขนาดใหญ่ในภาคบริการ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากนโยบายของรัฐบาลที่ให้การสนับสนุนภาคบริการ ตามแผนพัฒนา 5 ปีฉบับที่ 12 ที่ประกาศในเดือนที่ผ่านมา ซึ่งต้องการปฎิรูปรูปแบบการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน หลักการของแผนเน้นเร่งรัดให้ภาคบริการเติบโต และเป็นตัวสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เน้นการบริโภคมากขึ้นเพื่อแทนที่การส่งออก และการลงทุน แต่ในปัจจุบันตัวเลขภาคบริการของจีนคิดเป็นสัดส่วนน้อยกว่า 45% ของเศรษฐกิจ ขณะที่ในสหรัฐอเมริกาตัวเลขภาคบริการคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 70% ของเศรษฐกิจ
ข้อมูล เหล็ก